วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551
Poster ENERGY
นานมาครั้งครับ
คราวนี้เป็นรูปแบบของ Poster ครับ เอามาให้ดู 2 แบบ ถ้าเพื่อนๆเข้ามาดูก็ Comment หน่อยนะ
แล้วก็ขอให้เพื่อนๆมาเรียนในวันอังคารนี้ครบๆหน่อยนะครับ ทีมงานจะได้เก็บข้อมูลของงานแต่ละคน
แบบว่าครบถ้วนซะทีนะ แล้วอยากอยากได้ที่ บริเวณไหนในสตู โปรดแจ้ง ป้องด้วยครับ
วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
Ecological Footprint
การคำนวณจำนวนประชากรจากมุมมองของการใช้ทรัพยากรหรือการสร้างรอยเท้าทางนิเวศ จะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าแม้ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีจำนวนประชากรมากกว่าและอัตราการเพิ่มประชากรสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยังคงมีจำนวนรอยเท้าน้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งนี้เพราะประชากรของประเทศกำลังพัฒนามีวิถีชีวิตที่ง่ายกว่าจึงสร้างรอยเท้าน้อยกว่า
วิธีการเช่นนี้เป็นวิธีการเพื่อรักษาสมดุลของทรัพยากร ทางธรรมชาติเพื่อ หรือชะลอการหมดไปอย่างรวดเร็วของทรัพยากรบนโลก
Ecological Footprint
กระบวนการของมันประกอบไปด้วย การเชื่อมโยงระหว่างการค้า การส่งออกเพื่อกระจายทรัพยากรไปสู่ประเทศที่พัตนาเป็นหลัก ไม่ได้หมายความว่าทรัพยากรจากประเทศที่ กำลังพัฒนา จะไม่ได้ทรัพยากรจากประเทศที่ด้อยพัฒนา คือมีเข้ามาแต่ไม่มากเท่า
ประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศที่พัฒนาแล้วจะเป็น แกนสำคัญ ในกระบวนการนี้ Ecological Footprintหรือ การสร้างรอยเท้า
อัตราการเพิ่มของประชากร : ลดลงของทรัพยากร
กระทั่งถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก็เพิ่มเป็น 600 ล้านคนและภายในเวลาเพียง 130 ปี
ก็เพิ่มขึ้น 3 เท่า เป็น 2,000 ล้านคน และหลังจากนั้นอีกเพียง 70 ปี ก็เพิ่มขึ้นเป็น 6,000
ล้านคน การเพิ่มของประชากร จึงคล้ายระเบิดแตก มิใช่แบบทวีคูณ
นอกจากนี้ เรายังมีความเข้าใจผิด ในเรื่องเกี่ยวกับอัตราการเพิ่มของประชากร คือ
1.การเพิ่มเป็นไปอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ
2.การเกิดเหตุการณ์พิเศษ เช่น สงครามโลกหรือโรคระบาดจะทำให้จำนวนประชากรลดลง
3.การเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากสุขภาพที่ดีขึ้น
การคาดการณ์จำนวนประชากรโลกในอนาคตไว้ 3 ระดับ คือ
1.ระดับต่ำ ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.35 พันล้านคนในปี 2606 และจะค่อยๆ
ลดลงเหลือ 8 พันล้านคนในศตวรรษต่อไป
2.ระดับกลาง ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1 หมื่นล้านคนในปี 2602
และจะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 10.48 พันล้าน ในปี 2625 และค่อยๆ ลดลงเหลือ 10.3
พันล้านเมื่อสิ้นคริสต์ ศตวรรษที่ 22
3.ระดับสูง ประชากรโลก จะเพิ่มขึ้นเกิน 1 หมื่นล้านคน ในปี 2600 และเพิ่มขึ้นถึง 1.2
หมื่นล้านคน ในปี 2638 โดยประชากรส่วนใหญ่ของโลกถึงกว่า 3 ใน 4 อาศัยอยู่ในเพียง
2 ทวีป คือ เอเชียและแอฟริกา ระหว่างปี 2545-2593 นั้นจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น 1
ใน 3 จะอยู่ในแอฟริกาและครึ่งหนึ่งจะอยู่ในเอเชีย แต่ละปีจำนวนประชากรของเอเชียแ
ละแอฟริกาเพิ่มขึ้น 49 และ 20 ล้านคนตามลำดับ ส่วนจำนวนประชากรชาวยุโรปลดลง
ปีละ 0.7 ล้านคน
จำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
เพื่อผลิตสิ่งต่างๆ สำหรับสนองความต้องการ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอาจยังผลให้เกิด
ภาวะขาดแคลน เช่น ในด้านของทรัพยากรดิน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำหรับผลิตอาหารและ
การเพาะปลูกพืชอื่นๆ แม้ว่าโลกจะมีพื้นที่มากมาย แต่ก็อาจไม่เพียงพอเพราะปัจจัยหลาย
อย่าง โดยทั่วไปความเพียงพอของพื้นที่เพาะปลูกขึ้นอยู่กับ
1.ส่วนประกอบของอาหาร ที่รับประทาน
2.ความสามารถในการผลิตของดิน
3.ปริมาณน้ำที่สามารถหาได้ และ
4.การใช้สารเคมีในการเพาะปลูก
โลกมีทรัพยากรดินสำหรับการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และเป็นผืนป่าเท่ากับ ร้อยละ 68
ของพื้นที่ทั้งหมดบนผืนโลก
อย่างไรก็ดีมนุษย์เราไม่สามารถที่จะ นำพื้นที่ทั้งหมดบนโลกมาใช้ได้ ในปัจจุบันโลกจึงมี
พื้นที่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชากรได้เพียง 3 พันล้านคนเท่านั้น หากทุกคนใช้ทรัพยกร
เช่นเดียวกับประชากรในประเทศอุตสาหกรรมในปัจจุบัน จำนวนประชากรอาจเพิ่มขึ้น
เป็น 7.5 พันล้านคนได้ หากทุกคนใช้ทรัพยากรในระดับของประเทศที่มีประชากรบริโภค
อาหารง่ายๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจำพวกมังสวิรัติ แต่อาจเพิ่ม เป็น 2 หมื่นล้านคนได้หากทุก
คนใช้ทรัพยากรเพียงจำกัด หรือเท่าๆ กับประชากรของโลกที่ยากจนในขณะนี้
ประเทศที่เริ่มมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงประชากร ต่อคนในขณะนี้ คือ
อิสราเอล บังกลาเทศ สาธารณรัฐคองโก สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ จอร์แดน อียิปต์
เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โอมาน บรูไน คูเวต และสิงคโปร์
วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
การใช้ชีวิต
เราจะทำอย่างไรที่เราจะเป็นอยู่และใช้จ่ายได้เหมือนแต่ก่อน "แม๋ มันช่างยากเย็นจริงๆ
ทุกวันของเราจับจ่ายใช้สอยอย่างปกติ แต่ในเมื่อของใช้ต่างๆ เริ่ม มีการปรับราคาสูงขึ้น
เราจะทำอย่างในในการ เก็บเงิน เพื่อใช้ในยามจำเป็น น่าจะมีอะไรบางอย่างที่ช่วยกระตุ้น
ในการเก็บเพื่อใช้จ่ายให้มากขึ้น หรือช่วยในการ แบ่งสัดส่น ของเงินไปใช้จ่ายในวันต่อๆไป
โดยไม่ต้องกังวล กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในวันข้างหน้า ว่าเราจะเหลือใช้หรือเปล่า
แนวคิด
1.เริ่มจาการ ตัดบางส่วนของการใช้ในวันนี้ออกไปโดยไม่จำเป็น หรือใช้ให้น้อยลง
2.นำส่วนที่เหลือใช้ไปใช้ได้ในอาทิตหน้า ในวันเดียวกัน โดยใช้แบบสัดส่วนเดิม
3.ทำเหมือนข้อ 1 กับข้อ 2
นี่เป็นแนวคิดแรก ในการออกแบบของสิ่งนั้น
ในการตัดของบางส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปใช้นั้นเหมือนกับว่าการงดใช้พลังงานออกไปด้วย
"ผมคิดว่าถ้าเราแบ่งสัดส่วนในวันที่ใช้จ่ายออกไป เราก็สามารถมีใช้ได้ ในเวลาที่เราคับขัน"
วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551
อัตราการเพิ่ม : ลดลงของทรัพยากร
ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 16 จำนวนประชากรโลกมีเพียงแค่ร้อยล้านคนและเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ กระทั่งถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก็เพิ่มเป็น 600 ล้านคน และภายในเวลาเพียง 130 ปี ก็เพิ่มขึ้น 3 เท่า เป็น 2,000 ล้านคน และหลังจากนั้นอีกเพียง 70 ปี ก็เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านคน การเพิ่มของประชากร จึงคล้ายระเบิดแตก มิใช่แบบทวีคูณ
นอกจากนี้ เรายังมีความเข้าใจผิด ในเรื่องเกี่ยวกับอัตราการเพิ่มของประชากร คือ
1.การเพิ่มเป็นไปอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ
2.การเกิดเหตุการณ์พิเศษ เช่น สงครามโลกหรือโรคระบาดจะทำให้จำนวนประชากรลดลง
3.การเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ความจริงก็คือ
การคาดการณ์จำนวนประชากรโลกในอนาคตไว้ 3 ระดับ คือ
1.ระดับต่ำ ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.35 พันล้านคนในปี 2606 และจะค่อยๆ ลดลงเหลือ 8 พันล้านคนในศตวรรษต่อไป
2.ระดับกลาง ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1 หมื่นล้านคนในปี 2602 และจะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 10.48 พันล้าน ในปี 2625 และค่อยๆ ลดลงเหลือ 10.3 พันล้านเมื่อสิ้นคริสต์ ศตวรรษที่ 22
3.ระดับสูง ประชากรโลก จะเพิ่มขึ้นเกิน 1 หมื่นล้านคน ในปี 2600 และเพิ่มขึ้นถึง 1.2 หมื่นล้านคน ในปี 2638 โดยประชากรส่วนใหญ่ของโลกถึงกว่า 3 ใน 4 อาศัยอยู่ในเพียง 2 ทวีป คือ เอเชียและแอฟริกา ระหว่างปี 2545-2593 นั้นจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น 1 ใน 3 จะอยู่ในแอฟริกาและครึ่งหนึ่งจะอยู่ในเอเชีย แต่ละปีจำนวนประชากรของเอเชียและแอฟริกาเพิ่มขึ้น 49 และ 20 ล้านคนตามลำดับ ส่วนจำนวนประชากรชาวยุโรปลดลงปีละ 0.7 ล้านคน
ลดลงของทรัพยากร
จำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้นเป็นเงา ตามตัวเพื่อผลิตสิ่งต่างๆ สำหรับสนองความต้องการ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอาจยังผลให้เกิดภาวะขาดแคลน เช่น ในด้านของทรัพยากรดิน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำหรับผลิตอาหารและการเพาะปลูกพืชอื่นๆ แม้ว่าโลกจะมีพื้นที่มากมาย แต่ก็อาจไม่เพียงพอเพราะปัจจัยหลายอย่าง โดยทั่วไปความเพียงพอของพื้นที่เพาะปลูกขึ้นอยู่กับ
1.ส่วนประกอบของอาหาร ที่รับประทาน
2.ความสามารถในการผลิตของดิน
3.ปริมาณน้ำที่สามารถหาได้
4.การใช้สารเคมีในการเพาะปลูก โลกมีทรัพยากรดินสำหรับการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และเป็นผืนป่าเท่ากับ หรือร้อยละ 68 ของพื้นที่ทั้งหมดบนผืนโลก
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551
คาดอีก 4 ปีพลเมืองโลก 7,000 ล้านคน
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551
การงดใช้พลังงาน
ความหนาของบรรยากาศเหลือเพียงน้อยนิด
จากการพัฒนาที่เกินความพอเพียง นั่นเป็นเพราะการที่เราใช้พลังงานมากเกินไป ทำให้มีการปล่อย กีาซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศบางๆ จึงเกิดสภาวะเรือนกระจก
โดยความร้อนที่เกิดจากดวงอาทิตย์ถูกกักเก็บไว้มากขึ้นส่งผลให้สภาพดินฟ้าอากาศของโลก
เปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไป
เพื่อช่วยเหลือส่วนรวมในสังคม แต่อุปสรรคอยู่ที่ว่าเราต้องต่อสู้เอาชนะกับความเคยชินของเราเท่านั้นเอง
เรื่องเหล่านี้จึงเกี่ยวเนื่องเกี่ยวกับเรื่องที่น่าสนใจ คือ ปฏิทิน การที่จะทำปฏิทินย้อนหลังนั้นมัน
ยาก “ผมจึงเลือก ทำบางอย่างที่เหมาะสม แต่ยังเกี่ยวกับเรื่องของปฏิทิน โดยเลือกที่จะทำ
Diary ที่ปลูกจิตสำนึก
เอาเป็นว่าองค์ประกอบของปฏิทินองประกอบของมันก็มีให้เห็น คาตาอยู่แล้ว
ว่ากำหนดวันต่างๆ ในรอบ1เดือนก็จะเห็นได้ว่าปฏิทิน มีการบ่งบอกวันพิเศษวันหยุดเสาร์อาทิตย์ บอกวันหยุดราชการ แล้วถ้าอันไหนที่ดูเป็น Inter หน่อยก็บอกถึงวันที่ หรือวันที่พิเศษของต่างปรัเทศด้วย
องค์ประกอบของ Diary ก็จะมี
ปฏิทิน ในเดือนนั้น ข้างขึ้นข้างแรมเวลาในแต่ละวันเพื่อจดบันทึกใน Diary
บ่งบอกปี
เริ่มตั้งแต่เวลา 7.00___8.00___ 9.00___10.00___11.00___12.00............ไปจนถึงเวลา18.00น.
สรุป ทั้ง 2 อย่างที่องค์ประกอบที่เหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันคือ Diary เพราะว่าจะเพิ่มเวลา ตารางในการจดบันทึกในแต่ละวันเข้าไปนั่นเอง